พระครูธรรมการศึกษา หรือ หลวงพ่อเพ็ชร์ สิริวทฺฒโน อดีตเจ้าอาวาสวัดนนทรีย์ ต.พุดเลา อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ท่านเป็นพระเกจิผู้ทรงวิทยาคมและคุณูปการอย่างสูงต่อพระบวรพุทธศาสนาและการศึกษาทั้งพระภิกษุ-สามเณรและกุลบุตรกุลธิดา เป็นที่เคารพศรัทธายิ่งของชาวบ้านในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง รวมทั้งสาธุชนโดยทั่วไป วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังที่ท่านสร้างนั้น ล้วนทรงพุทธาคมเป็นที่ประจักษ์ เป็นที่นิยมสะสมอย่างสูง โดยเฉพาะ “เหรียญรูปเหมือน ปี 2489” ซึ่งนับเป็นเหรียญรุ่นแรกและเป็นรุ่นเดียวที่ท่านสร้างไว้ ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน ‘เบญจภาคีเหรียญเมืองกรุงเก่า’ ที่มีค่านิยมสูงอันดับต้นๆ ของจังหวัด ซึ่งปัจจุบันหาดูหาเช่าได้ยากยิ่ง
(ขอขอบคุณภาพจาก เพจ ´พระเกจิอยุธยา´)
หลวงพ่อเพ็ชร์ เป็นชาว อ.บางปะหัน โดยกำเนิด เกิดเมื่อปี พ.ศ.2410 ที่ ต.บ้านลี่ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายนาม-นางลำใย ช่วงเยาว์วัยได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทยและขอม กับ พระสมุห์ดิษย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดนนทรีย์ จนอายุ 16 ปี จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดราชบูรณะ (วัดเลียบ) อยู่ในความปกครองของพระครูปรากรมุนี (เกิด) ได้ศึกษามูลกัจจายน์กับ อาจารย์ช้าง ผู้เป็นฆราวาส และเรียนบาลีกับ พระประสิทธิ์สุตคุณ (จุ๊ย) และพระอาจารย์ทอง พออายุ 22 ปี จึงกลับมาอุปสมบทที่วัดทอง อ.บางปะหัน โดยมี พระอุปัชฌาย์ปั้น วัดศรีโพ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการเปรม วัดม่วง และพระอาจารย์ป้อม วัดนาค เป็นพระคู่สวด ได้รับฉายา "สิริวทฺฒโน" จากนั้นกลับไปจำพรรษาที่วัดราชบูรณะ ศึกษาพระปริยัติธรรมต่อจนจบถารกมงคลทีปนี บาลีสูตรกิต์ก ฯลฯ สามารถแปลได้เป็นอย่างดี ในสมัยนั้นที่วัดราชบูรณะ จะเป็นสำนักทิศาปาโมกข์ ซึ่งมีครูบาอาจารย์สำคัญๆ มาจำพรรษาอยู่มาก ด้วยท่านใฝ่ใจในการศึกษาจึงรับการถ่ายทอดทุกเคล็ดวิชาจากทุกพระอาจารย์จนหมดสิ้น นอกจากนี้ยังเป็นคนโปรดของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (แสง) ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ มาทุกแขนง
หลังจากนั้นได้ย้ายมาจำพรรษาที่ วัดรังษีสุธาวาส บางลำพู เพื่อสอนพระปริยัติธรรมอยู่ 5 พรรษา ระหว่างนั้นยังได้ศึกษาวิปัสสนาธุระกับ พระธรรมกิตติ (แจ้ง) จนช่วงท้ายพรรษาที่ 5 พระสมุห์ดิษย์ มรณภาพลง ชาวบ้านพุดเลาได้รับคำแนะนำจากท่านเจ้าคุณพระธรรมราชานุวัตร (สะอาด) วัดโลกยะสุธา (ศาลาปูน) ให้มาอาราธนาท่านกลับไปเป็นเจ้าอาวาสวัดนนทรีย์ ท่านจึงรับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดนนทรีสืบแทน
หลวงพ่อเพ็ชร์ ปกครองวัดและพระลูกวัดด้วยความยุติธรรม พัฒนาและสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่วัดและท้องถิ่น พัฒนาด้านการศึกษา สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมและโรงเรียนประชาบาล ท่านเป็นพระแบบครู ตั้งใจถ่ายทอดวิชาให้แก่ลูกศิษย์อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ท่านยังเชี่ยวชาญทางด้านแพทย์แผนโบราณช่วยรักษาชาวบ้านและญาติโยมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งยังได้สร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางเพื่อแจกจ่ายแก่สาธุชนไว้ป้องกันตัวและเสริมสิริมงคล อาทิ ตะกรุด ลูกอม ผ้ายันต์ ธงค้าขาย ธงกันไฟ ผ้าประเจียด ตะกรุดสาริกา สีผึ้ง และน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ ซึ่งล้วนมีประสบการณ์เป็นที่ปรากฏและเป็นที่หวงแหนยิ่งนัก
ท่านได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์เรื่อยมา สมณศักดิ์สุดท้ายได้เป็นที่ พระครูธรรมการศึกษา ในปี พ.ศ.2489 ซึ่งเป็นปีที่ท่านจะมีอายุครบ 80 ปีพอดี บรรดาลูกศิษย์ลูกหาจึงพร้อมใจกันขออนุญาตจัดงานฉลองสมณศักดิ์และทำบุญอายุให้ท่านเป็นงานใหญ่ พร้อมขออนุญาตจัดสร้าง “เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก” เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสสำคัญทั้งสอง ท่านมรณภาพในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2493 สิริอายุ 83 ปี
เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อเพ็ชร์ ปี 2489 ลักษณะเป็นรูปทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หูเชื่อม ด้านหน้า ยกขอบโดยรอบ ตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเพ็ชร์ห่มจีวรลดไหล่ครึ่งองค์ ด้านล่างมีอักษรไทยกำกับว่า “พระครูธรรมการ เพ็ชน์ วัดนนทรีย์” (สันนิษฐานว่า คำว่า ‘เพ็ชร์” ช่างแกะแม่พิมพ์ผิดจาก ‘ร’ เป็น ‘น’) ด้านหลัง เป็นหลังเรียบ ตรงกลางเป็นอักขระขอม อ่านว่า “สัตถาระนุง อากัตทิตุง วิสัตเชตุง นาทาสิ สัตถาธะนุง นาทาสิ” คาถาบทนี้มีในตำนานพุทธชาดก เป็น ‘พระคาถามหาอุด’ ล่างสุดเป็นอักษรไทยว่า “ที่ระลึกครบอายุ ๘๐ ปี พ.ศ.๒๔๘๙”
เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อเพ็ชร์ ปี 2489 นี้ โด่งดังมากมาแต่โบราณ พุทธคุณเป็นเลิศเป็นที่ปรากฏ ยิ่งด้านคงกระพันชาตรีนั้น ว่ากันว่า “จะฟันก็ฟันไม่เข้า ยิงเท่าไหร่ไม่มีออก” ทีเดียว อาจเป็นด้วยท่านเป็นชาวพุดเลา ที่มีเลือดนักรบและหนังเหนียวเป็นที่เลื่องลือของอริราชศัตรูมาแต่ครั้งโบราณก็เป็นได้ครับผม
โดย อ.ราม วัชรประดิษฐ์
Share :
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |